top of page
Writer's pictureNEO ACADEMY

20 ศัพท์สำหรับนักบริหารการตลาดดิจิทัลมือใหม่

Updated: Jun 19, 2023


1. ROI (Return On Investment)

การวัดผลตอบแทนจากการลงทุน เป็นหนึ่งในวิธีการประเมินว่าเมื่อใช้จ่ายเงินไปแล้ว ได้ผลตอบแทนกลับมาคุ้มค่าหรือไม่ เมื่อค่า ROI สูงหมายถึง ใช้เงินลงทุนน้อย แต่ได้รับผลตอบแทนมาก ช่วยวัดผลประสิทธิภาพของแคมเปญ โปรโมชัน กิจกรรมส่งเสริมการขายต่าง ๆ มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการทำการตลาดดิจิทัล เพราะเป็นการประเมินจากการวิเคราะห์ข้อมูลบนพื้นฐานของตัวเลข ช่วยในการเปรียบเทียบแต่ละแคมเปญ แต่ละช่วงเวลาของปี แต่ละช่องทางการสื่อสารว่าอะไรจะเป็นปัจจัยให้ยอดขายเพิ่มมากขึ้นได้จริง


2. CPC (Cost Per Click)

อัตราค่าใช้จ่ายในการโฆษณาต่อการคลิก 1 ครั้ง โดยผู้ซื้อโฆษณาจะต้องจ่ายเงินเมื่อมีผู้คลิกบนพื้นที่แสดงผลโฆษณา จุดที่แสดงโฆษณาแล้วมีผู้มองเห็นมาก จะมีราคาสูงกว่าจุดอื่นๆ ซึ่งพื้นที่เล็ก หรือมักถูกมองข้ามไป


3. CTR (Click Through Rate)

เปอร์เซ็นต์ของการคลิกต่อจำนวนการมองเห็นโฆษณา เป็นการวัดผลอย่างหนึ่งของพื้นที่โฆษณา ว่าเมื่อมีผู้มองเห็นโฆษณาแล้วคลิกเพื่อเข้าถึงรายละเอียดมีมากน้อยเพียงใด เมื่อค่า CTR สูง แสดงว่าโฆษณาน่าดึงดูดใจ มีส่วนช่วยให้เจ้าของเว็บไซต์ประเมินการคิดค่า CPC ได้


4. Cost-Per-Impression (CPI)

ค่าใช้จ่ายต่อจำนวนครั้งที่มีการมองเห็นโฆษณา หลายแคมเปญใช้พื้นที่สื่อหลากหลายช่องทาง มักแสดงผลในรูปแบบของ Cost per Mille หรือ Cost per 1,000 Impressions เป็นอัตราราคาที่ผู้ซื้อโฆษณาตกลงที่จะจ่ายเงินต่อการมองเห็นโฆษณาทุก 1,000 ครั้ง ไม่ว่าจะคลิกดูโฆษณาหรือไม่ก็ตาม เป็นหนึ่งในวิธีการประเมินผล ROI ของการทำแคมเปญโฆษณาออนไลน์


5. CPM (Cost Per Mille)

ต้นทุนต่อการแสดงผลหนึ่งพันครั้ง หรือ Cost per 1,000 Impressions เนื่องจากคำว่า mille ในภาษาละตินแปลว่า Thousand นั่นเอง โดยจะมีการตั้งราคาแตกต่างกันไปตามตำแหน่งโฆษณา โดยจะมีรายละเอียดที่ทำให้การวัดผลแม่นยำขึ้นอีก นั่นคือ eCPM (effective cost-per-thousand) การวัดผลจากจำนวนการคลิกและการมองเห็นที่สัมพันธ์กับค่าใช้จ่ายทั้งหมดของโฆษณา และ vCPM (viewable cost-per-thousand) ซึ่งไม่นับรวมผู้ชมที่ไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์กับโฆษณา


6. KPI (key performance indicator)

ดัชนีชี้วัดผลงานหรือความสำเร็จของงาน เป็นคำที่เราได้ยินกันอยู่บ่อย ๆ ในแทบทุกวงการ สำหรับการตลาดดิจิทัล การวัดผลอย่างเป็นระบบนั้นสำคัญมาก เพราะต้องอาศัยข้อมูลพฤติกรรม ความคิดเห็นจากผู้ใช้ ข้อมูลรายได้จากการขาย ประสิทธิภาพการปฏิบัติงาน นำมาใช้เปรียบเทียบ วิเคราะห์หาจุดบกพร่องเพื่อพัฒนากลยุทธ์ต่อไป


7. Conversion Path

ลำดับขั้นตอนที่กลุ่มเป้าหมายจะพบเจอก่อนที่จะกลายเป็นลูกค้า HubSpot อธิบายไว้ว่า Conversion Path ประกอบด้วย 5 ปัจจัยสำคัญดังต่อไปนี้ คือ เนื้อหาที่มีคุณค่า Call-To-Action ที่น่าสนใจ หน้าแรกที่พบเมื่อคลิกลิงก์ แบบฟอร์ม และหน้าส่งท้าย


8. Conversion Rate

การกระทำที่เกิดขึ้นหลังจากกลุ่มเป้าหมายมีปฏิสัมพันธ์กับโฆษณา อาจเป็นได้ทั้งการจ่ายเงินซื้อสินค้าหรือบริการ ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน การยินยอมให้ข้อมูล การโทรศัพท์สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ฯลฯ ตามแต่วัตถุประสงค์ที่ตั้งใจไว้ เพราะหลายครั้งหลายหนที่ยอดวิวหนังโฆษณาออนไลน์สูงหลักล้าน หรือยอดการแชร์หลักหมื่น กลับไม่ได้เปลี่ยนมาเป็นยอดขายจริง Conversion Rate จึงมีส่วนช่วยประเมินประสิทธิภาพของเครื่องมือที่เลือกใช้และประสิทธิผลของการทำการตลาดดิจิทัลได้เป็นอย่างดี


9. Customer Lifetime Value (CLV)

คุณค่าของลูกค้าตลอดช่วงชีวิต คือการวัดผลกำไรที่ได้จากการใช้จ่ายของลูกค้าตลอดความสัมพันธ์ระหว่างธุรกิจกับลูกค้า นับตั้งแต่ช่วงที่เริ่มซื้อสินค้าชิ้นแรกหรือใช้บริการครั้งแรกจนถึงครั้งสุดท้าย มีความสำคัญต่อการตัดสินใจวางแผน การประเมินงบการตลาดเพื่อดึงดูดลูกค้าให้นานขึ้น ประมาณการยอดขายหรือกำไรล่วงหน้าได้ ไปจนถึงการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ การดูแลช่วยเหลือลูกค้าให้ได้รับความพึงพอใจ


10. Bounce Rate

อัตราที่ผู้เข้าชมเว็บไซต์เข้าใช้งานเพียงแค่หน้าเดียวแล้วกดออกทันที แสดงผลเป็นเปอร์เซ็นต์ ยิ่งค่าที่หลากหลาย เช่น อีเมล แคมเปญโฆษณา แต่จะใช้ชี้วัดได้กับเว็บไซต์ที่มีมากกว่า 1 หน้าขึ้นไปเท่านั้น


11. Call-to-Action (CTA)

การกระตุ้นให้ลงมือทำ เป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญในการทำการตลาดดิจิทัล ซึ่งต้องอาศัยความแม่นยำในการสื่อสาร และการออกแบบ UI ที่ทำให้ผู้ใช้งานสนใจ เกิดความต้องการที่จะมีปฏิสัมพันธ์บางอย่าง เช่นกดซื้อสินค้า หรือทดลองใช้บริการตามจุดประสงค์ที่นักการตลาดดิจิทัลวางไว้ อาจมาในรูปแบบของปุ่มสำหรับคลิก ลิงก์ การยินยอมให้ข้อมูล หรือแม้แต่การกดชมวิดีโอ การออกแบบ CTA ให้ชัดเจน ใช้งานง่าย เข้าใจง่ายนั้นจำเป็นต้องใส่ใจทั้งประสบการณ์ผู้ใช้และคุณค่าที่ต้องการสื่อไปให้ถึงกลุ่มเป้าหมาย


12. Organic Traffic

จำนวนผู้ที่เข้าชมเว็บไซต์โดยที่ไม่ได้ผ่านการซื้อโฆษณา ไม่ต้องเสียเงินให้ยอดตัวเลขเหล่านี้ เกิดได้โดยการค้นหาคำใน Search Engine เป็นสิ่งที่เกิดจากความต้องการซื้อกับความต้องการขายที่มาบรรจบกันพอดี มีโอกาสเกิดการใช้จ่ายสินค้าและบริการมากกว่า Paid Traffic ที่เป็นจำนวนผู้เข้าชมที่เกิดขึ้นจากการซื้อโฆษณานั่นเอง


13. On-Page Optimization

การปรับแต่งเว็บไซต์ให้ติดอันดับการค้นหาลำดับต้นๆ ใน Search engine เป็นหนึ่งในวิธีการทำ SEO ที่เพิ่มโอกาสในการค้นพบกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น ด้วยการเลือกชื่อโดเมน คำอธิบายหน้าเว็บ (Meta description) บทความที่มีเนื้อหาและคำสำคัญที่ตอบโจทย์ความสนใจของกลุ่มเป้าหมาย ไปจนถึงรูปภาพที่ปรากฏในเว็บ


14. Off-Page Optimization

การทำให้เว็บไซต์ติดอันดับการค้นหาลำดับต้นๆ ใน Search engine โดยต้องพึ่งพาเว็บไซต์จากภายนอก ใช้การฝากลิงก์ไว้บนเว็บไซต์อื่นให้เชื่อมต่อเข้ามา เป็นกระบวนการที่กินเวลายาวนาน ต้องอาศัยการประสานกับเว็บอื่น หรือโซเชียลมีเดียต่าง ๆ แต่หากนำไปฝากไว้มากจนเป็นสแปม ระบบอาจตรวจจับได้ส่งผลให้เว็บไซต์ถูกแบนจนไม่ปรากฏขึ้นในหน้าผลการค้นหา


15. TOFU (Top of the Funnel)

ขั้นตอนแรกหลังจากที่กลุ่มเป้าหมายที่มุ่งหวังว่าจะมาเป็นลูกค้า (Leads) เริ่มต้นทำความรู้จัก กดติดตามช่องทางต่าง ๆ หรือยอมให้เข้าถึงข้อมูลบางอย่างที่สามารถเชื่อมต่อ ส่งข่าวสารถึงกันได้ เน้นไปที่การมอบคุณค่าที่พวกเขากำลังมองหา ในขั้นตอนนี้นักการตลาดดิจิทัลจำเป็นต้องควานหากลุ่มเป้าหมายให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพราะเมื่อไปถึงขั้นตอน MoFu (Middle of the Funnel) ที่เริ่มมีการให้ข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการ และขั้นตอน BoFu (Bottom of the Funnel) ซึ่งเป็นปลายทางของการเปลี่ยนกลุ่มเป้าหมายให้เป็นลูกค้า จำนวนคนก็จะลดลงเรื่อยๆ ตามลำดับนั่นเอง


16. Closed-Loop Marketing

กลยุทธ์การเก็บข้อมูลลูกค้า และใช้ข้อมูลขับเคลื่อนการทำงาน นำมาวิเคราะห์เพื่อใช้งานสำหรับวางแผนการขายและการตลาด เพื่อสร้างเนื้อหาโฆษณาที่ตรงใจ จับจุดความต้องการของลูกค้าได้อย่างละเอียดแม่นยำ เพื่อให้ขายสินค้าและบริการได้มากขึ้น แล้วเก็บข้อมูลมาใช้สื่อสารได้ดีขึ้น วนเวียนเช่นนี้ต่อไปไม่รู้จบ


17. Affiliate Link

วิธีการโปรโมทผ่านลิงก์ เมื่อมีการคลิกลิงก์ดังกล่าวในโซเชียลมีเดีย ในบล็อก ก็จะมีค่าตอบแทนให้ผู้สร้างลิงก์นั้นขึ้นมา นักการตลาดดิจิทัลไม่จำเป็นต้องเป็นผู้สร้างลิงก์เหล่านี้เอง แต่สามารถติดต่อ Influencer หรือ Micro Influencer ให้ช่วยแนะนำสินค้าหรือบริการแล้วแปะลิงก์ที่พวกเขาสร้างขึ้นเอง เพื่อนำทางมาสู่เว็บไซต์ที่ขายสินค้าได้โดยตรง นอกจากจะเป็นแรงจูงใจให้มีผู้ต้องการช่วยแนะนำสินค้าหรือบริการแล้ว ยังสามารถวัดผลจากสถิติการคลิกลิงก์ในช่องทางต่าง ๆ ได้อีกด้วย


18. Remarketing

การตลาดแบบติดตาม น่าจะเป็นสิ่งที่ทุกคนเคยพบเจอเมื่อใช้งานอินเทอร์เน็ตแล้วกดดูสินค้าบางอย่างแต่ยังไม่ตัดสินใจซื้อหรืออาจถูกดึงความสนใจไปหาสิ่งอื่นระหว่างใช้อินเทอร์เน็ต ระบบจะสร้างโฆษณาสินค้าเดียวกันในพื้นที่อื่น ๆ ตามมาในฟีดส์โซเชียลมีเดีย ตามมาในเว็บอ่านข่าว ฯลฯ เพื่อจูงใจให้ตัดสินใจใหม่อีกครั้ง


19. Content Offer (or Lead Magnet)

กลยุทธ์การใช้สิ่งที่น่าสนใจ มีคุณค่าสำหรับกลุ่มเป้าหมาย เพื่อหาหนทางเปลี่ยนผู้ที่สนใจให้กลายเป็นลูกค้า เช่นการให้ทดลองใช้โปรแกรมช่วงระยะเวลาหนึ่ง การแจกสติ๊กเกอร์ LINE แลกกับการเพิ่มเป็นเพื่อน เพื่อหาหนทางเชื่อมต่อกับกลุ่มเป้าหมายเหล่านั้นแล้วจึงตามมาด้วยการยื่นข้อเสนอที่ดึงดูดใจเกี่ยวกับสินค้าและบริการ


20. Backlink

การที่ลิงก์เว็บไซต์ไปปรากฏตามที่ต่าง ๆ อาจจะปรากฏในรูปแบบของลิงก์ที่เป็นตัวหนังสือ ภาพ วิดีโอ หรือปุ่มบนหน้าเว็บไซต์ ที่เมื่อผู้ชมเว็บไซต์คลิกแล้วจะนำทางมาสู่เว็บไซต์นั้น เป็นหนึ่งในวิธีการทำ SEO ที่ได้ผลดี ส่งผลต่อลำดับการแสดงผลการค้นหาใน Search Engine



อ้างอิง



417 views0 comments

Comments


bottom of page