top of page
Writer's pictureNEO ACADEMY

ความหมายของ Digital Asset และจุดกำเนิดของเหรียญหลักเปลี่ยนโลก



ความหมายของ Digital Asset และจุดกำเนิดของเหรียญหลักเปลี่ยนโลก

โลกมนุษย์เรามีการใช้สิ่งของมีค่า เพื่อแลกเปลี่ยนปัจจัยสำคัญที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต มาตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ เมื่อประมาณ 6,000 – 7,000 ปีก่อน และก็ได้มีวิวัฒนาการในการแลกเปลี่ยนมาเรื่อย ๆ


กระทั่งเมื่อประมาณ 2,600 ปีที่ผ่านมา มนุษย์เริ่มมีการใช้แร่เงินและทองคำ นำมาแลกเปลี่ยนเป็นตัวแทนในการวัดมูลค่าของสินค้าที่แลกเปลี่ยนกัน และนี่ก็เป็นต้นกำเนิดของ “เงินตรา” ที่เราใช้กันอยู่ในปัจจุบัน

จะเห็นได้ว่าเมื่อผ่านยุคสมัยไปแต่ละยุคสมัย วิวัฒนาการของเงินตรานั้นก็เปลี่ยนแปลงตามไปเช่นกัน จาก “เงินตราโลหะ” พัฒนาเป็น “เหรียญกษาปณ์” แล้วกลายมาเป็น “ธนบัตร” ที่ใช้กันทุกวันนี้


แต่เงินตราไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้น ในโลกยุคนี้ที่เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามามีบทบาทกับทุกย่างก้าวของชีวิต วิวัฒนาการของเงินตราก็ได้เปลี่ยนแปลงไปเช่นกัน NEO Academy จะพาท่านไปรู้จักกับการวิวัฒนาการของเงินในยุคดิจิทัลว่าสิ่งนี้คืออะไร?



Digital Asset คืออะไร?

อย่างที่กล่าวไปข้างต้น ในยุคดิจิทัลแบบนี้ก็มีวิวัฒนาการของเงินตราเกิดขึ้นเช่นกัน หลายท่านน่าจะเคยได้ยินหรือได้เห็นคำว่า “Digital Asset (สินทรัพย์ดิจิทัล)” หรือที่รู้จักกันในนาม “Cryptocurrency (คริปโตเคอร์เรนซี)”หรือ “Digital Currency (สกุลเงินดิจิทัล)” สิ่งนี้คือ หน่วยอิเล็กทรอนิกส์ที่แสดงมูลค่าเหมือนสินทรัพย์ทั่วไป ถูกสร้างขึ้นบนระบบหรือเครือข่ายอิเล็กทรอนิกส์ ไม่สามารถจับต้องได้ แต่สามารถซื้อ-ขาย โอนเปลี่ยนความเป็นเจ้าของได้


แต่สิ่งที่ทำให้ Digital Asset เหล่านี้แตกต่างจากเงินตราทั่วๆไป คือ การธุรกรรมต่างๆ ไม่จำเป็นต้องผ่านตัวกลาง หรือธนาคาร และสถาบันการเงิน โดยสามารถทำได้ผ่านโลกออนไลน์และระบบที่เรียกว่า Blockchain (บล็อกเชน) การทำธุรกรรมของท่านก็จะถูกบันทึกลงในระบบคอมพิวเตอร์นั่นแอง


นอกจากนี้แล้ว ยังสามารถซื้อ ขาย แลก เปลี่ยน หรือที่เรียกว่า เทรด ได้ตลอด 24 ชั่วโมงแบบไม่มีวันหยุด ไม่ว่าท่านจะอยู่ที่มุมไหนของโลก ตราบใดที่ท่านยังสามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ มูลค่าของ Digital Asset เหล่านี้ขึ้นอยู่กับความพอใจของ ผู้ซื้อ-ขาย เป็นหลัก เพราะไม่ได้มีการควบคุมโดยหน่วยงานใด


แม้ว่าจะดูน่าสนใจและน่าลงทุน แต่ทั้งหมดนี้ก็ต้องมาพร้อมกับ ความเสี่ยง

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ออกมาเปิดเผยว่า ในรอบ 3 ปีที่ผ่านมานั้น ยอดเปิดบัญชีเทรดคริปโตฯ เติบโตมากกว่า 5 เท่า หากเทียบกับการเปิดบัญชีหุ้นแล้ว ตลอดระยะเวลากว่า 30 ปี ยังมีจำนวนบัญชีแค่ 1,800,000 บัญชีเท่านั้น แต่แค่เพียงปี พ.ศ.2564 ยอดเปิดบัญชีคริปโตฯ พุ่งไปถึง 1,600,000 บัญชี ถือว่ามาแรงและเติบโตได้ไวมาก ทำให้ไม่สามารถทราบถึงราคาที่แท้จริงของคริปโตฯ เนื่องจากมีความผันผวนสูง เพราะราคาที่ซื้อขายนั้น ว่ากันด้วยความพึงพอใจของตลาด โดยไม่มีเพดานนั่นเอง


หลายคนนั้นต้องการที่จะลงทุนกับ Digital Asset เพื่อการเก็งกำไรอย่างเดียวเท่านั้น แต่การลงทุนกับ Digital Asset นั้นมีอีกหลายอย่าง ซึ่งขึ้นกับวัตถุประสงค์นั้นๆ ของตัวเหรียญแต่ละชนิดเอง หลายท่านที่ลงทุน อาจจะยังไม่ทราบแม้กระทั่งจุดประสงค์ หรือความสำคัญของเหรียญนั้นๆ ที่กำเนิดเกิดขึ้นมา


NEO Academy จะขออธิบายที่มาที่ไป และความสำคัญของ Digital Asset เหรียญหลักๆ เพื่อให้ทุกท่านนำข้อมูลเหล่านี้ไปเลือกลงทุนกับเหรียญต่างๆ อย่างมีหลักการและข้อมูลมากยิ่งขึ้น


Bitcoin คืออะไร?

Bitcoin (BTC) หรือ บิทคอยน์ เป็น Digital Asset สกุลแรกของโลก กำเนิดเมื่อปี ค.ศ.2009 โดยผู้สร้างที่ใช้นามแฝงว่า Satoshi Nakamoto จุดประสงค์เพื่อให้ BTC เป็นสกุลเงินอิสระ ไม่ขึ้นตรงต่อรัฐบาล หน่วยงาน หรือองค์กรใดองค์กรหนึ่ง


โดย BTC ใช้ Blockchain (บล็อกเชน) ในการบันทึกธุรกรรม ตัวบล็อกเชนนั้นเป็นเทคโนโลยีการเก็บข้อมูลที่มีความปลอดภัยและน่าเชื่อถือมากที่สุด ใช้หลักการทำงานแบบ Decentralized (ความกระจายศูนย์) สำเนาของข้อมูลจะถูกเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์ทุกเครื่องบนเครือข่าย และมีการตรวจสอบอยู่เสมอ จึงยากต่อการปลอมข้อมูล และสามารถตรวจสอบได้อย่างง่ายดาย ที่สำคัญคือยากต่อการเจาะข้อมูล ที่ผ่านมานั้นยังไม่มีผู้ใดสามารถปลอมแปลงข้อมูลในบล็อกเชนได้เลย


สิ่งที่ทำให้ BTC มีมูลค่าสูงอย่างในปัจจุบันนั่นเป็นเพราะจำนวนเหรียญที่มีอยู่อย่างจำกัดเพียง 21 ล้านเหรียญ และตอนนี้บิตคอยน์ถูกขุดพบมาแล้วกว่า 18 ล้านเหรียญ เหลือเพียงไม่ถึง 3 ล้านเหรียญเท่านั้น เหตุผลที่มีจำกัดนั้นเพื่อป้องกันการเฟ้อของสกุลเงิน จนทำให้มูลค่าลดลงและหายไปจากตลาด และเพื่อเพิ่มมูลค่าของเหรียญให้มากขึ้นในอนาคตนั่นเอง


Ethereum คืออะไร?

Ethereum (ETH) คือเครือข่าย Blockchain ที่เป็นแพลตฟอร์มสำหรับการสร้าง Decentralized Application (แอพพลิเคชันแบบกระจายศูนย์) โดยมี Ethereum เป็นสกุลเงินกลางของเครือข่าย ใช้ในการแลกเปลี่ยนสินค้าหรือบริการ และยังทำหน้าที่เหมือนกับ “น้ำมัน” ที่จะทำให้เหล่า Decentralized Application สามารถทำงานร่วมกันได้


Ethereum ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ.2015 ถูกสร้างขึ้นโดยผู้ร่วมก่อตั้งเว็บไซต์ Bitcoin Magazine อย่าง Vitalik Bulletin นอกจากนี้ Ethereum ยังเป็น Digital Asset ที่มีมูลค่ามากที่สุดเป็นอันดับ 2 รองจาก Bitcoin เท่านั้น



NFT คืออะไร?

NFT (Non-Fungible Token) คือ สินทรัพย์ดิจิทัลอีกประเภทหนึ่ง ที่อยู่ในบล็อกเชนเช่นเดียวกัน แต่จุดเด่นของ NFT นั่นคือ การเป็น Token (โทเคน) ที่ไม่สามารถคัดลอกหรือทำซ้ำได้นั่นเอง ทำให้เหรียญแต่ละแบบมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น ในช่วงแรกนั้น NFT นิยมนำมาใช้ในแวดวงศิลปะ ที่เปลี่ยนเอางานศิลป์ที่เป็นลิขสิทธิ์ทางปัญญาของผู้สร้างมาแปลงเป็น NFT


NFT สามารถซื้อขายได้ในระบบบล็อกเชนเช่นเดียวกับ Digital Asset อื่นๆ ทำให้คนเข้าถึงได้ง่ายขึ้น และเจ้าของผลงานก็สามารถได้รับประโยชน์จากงานของตนด้วย


จากที่ได้ทราบกันไปแล้วทั้งความหมายของ Digital Asset และที่มาที่ไปของ Cryptocurrency หลักๆ แต่ละตัว ท่านคงมีความสนใจเกี่ยวกับการลงทุนในรูปแบบนี้มากขึ้นกว่าเดิม แต่หากท่านยังลังเลว่าควรเริ่มที่จุดไหนดี หรือลงทุนอยู่แล้วแต่ไม่ประสบตามผลลัพท์ที่ท่านต้องการ



NEO Academy ขอเชิญชวนท่านให้มาเรียนกับเราในหลักสูตร Mini MBA: Digital Asset Investment & Management #1 หรือ หลักสูตรการลงทุนและบริหารสินทรัพย์ดิจิทัล รุ่น 1

หลักสูตรที่จะช่วยให้ท่านเปิดโลกการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล “เริ่มต้นก้าวแรกอย่างมั่นใจ” ผสมผสานความรู้จากคณาจารย์และผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล เพราะก้าวแรกสำคัญเสมอ...


รายละเอียดหลักสูตรเพิ่มเติม: https://www.neobycmmu.com/mini-mba-digital-asset-management



Source: https://www.saranukromthai.or.th/sub/book/book.php?book=29&chap=6&page=t29-6-infodetail01.html, https://www.moneyguru.co.th/lifestyle/articles/%E0%B9%80%E0%B8%87%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B8%B2-%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%A1-%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89%E0%B9%80%E0%B8%87%E0%B8%B4%E0%B8%99/, https://www.bot.or.th/Thai/MuseumAndLearningCenter/BOTMuseum/Northern/Pages/T-1stcoin.aspx#:~:text=%E0%B8%A1%E0%B8%99%E0%B8%B8%E0%B8%A9%E0%B8%A2%E0%B9%8C%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89%E0%B9%81%E0%B8%A3%E0%B9%88%E0%B9%80%E0%B8%87%E0%B8%B4%E0%B8%99,%E0%B8%81%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89%E0%B8%8A%E0%B8%B3%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B9%89, https://www.efinancethai.com/Fintech/FintechMain.aspx?release=y&name=ft_202102101517, https://www.depa.or.th/th/article-view/digital-asset22, https://www.set.or.th/set/financialplanning/lifeevent.do?name=lifeevent_detail_freelance-7&innerMenuId=7, https://www.bangkokbiznews.com/business/982407, https://www.finnomena.com/bitkub/7-things-bitcoin/, https://www.bangkokbiznews.com/business/971740

306 views0 comments

Comments


bottom of page