กลยุทธ์การตลาดที่แหลมคมคือชัยชนะของทุกองค์กรธุรกิจ ดังนั้นนักการตลาดจึงไม่สามารถหยุดนิ่งอยู่กับที่ได้ จากวิวัฒนาการของการตลาด 1.0 ตั้งแต่คริสต์ทศวรรษ 1950 ในยุคเบบี้บูม ที่คาถาการตลาดสำคัญคือหลักการ 4Ps จนกระทั่งถึงโลกการตลาด 5.0 (Marketing 5.0) ในปีก่อนที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลและปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) อันชาญฉลาดและ การตลาด 6.0 (Marketing 6.0) ยุคปัจจุบันคือ Immersive Marketing
โดยหนังสือคือ "The Future is Immersive" ร่วมเขียนโดย Iwan Satiawan และ Hermawan Kartjaya ที่มีโอกาสร่วมงานกันมาตั้งแต่หนังสือ Marketing 3.0
ปรมาจารย์แห่งการตลาดชาวอเมริกา ฟิลิป คอตเลอร์ ได้ให้ความหมายของการตลาด 6.0 ไว้ว่า
เราสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับมนุษย์บนโลกเสมือนจริงใน 2 สภาพแวดล้อม คือเป็นสภาพแวดล้อมที่ลูกค้าจะได้ประสบการณ์อีกแบบหนึ่ง และได้ในเชิง Metamarketing ไปพร้อมกันด้วย
Immersive Marketing คือ เป็น 'โลกที่หลอมรวม' ผสมผสานโลกจริง โลกเสมือน ผ่านการนำเทคโนโลยีต่างๆ มาใช้เพื่อนำสู่การใช้งาน หรือต่อยอดได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น
AI
AR-VR
Automation
Big Data and Machine Learning
Chatbots
Drone
Machine-robot
Self-driving vehicles
Sensor and IoT
Social Media
Voice and Facial Recognition
ทำให้ประชากรไม่ได้มีเพียงแค่มนุษย์เท่านั้น หากแต่รวมถึงประชากรเอไอ (AI) บอต (Bot) ที่นักการตลาดต้องทำความเข้าใจพฤติกรรมด้วยเช่นกัน ซึ่ง MarTech เหล่านี้เรียกว่า Quantum Marketing
ซึ่งหากใน 5 ปีข้างหน้าหากองค์กรไม่ยอมเปลี่ยนแปลงและพัฒนาทำให้อยู่กับที่เดิม จะทำให้ถูกบังคับออกจากธุรกิจ และหากไม่ให้ความสำคัญกับเรื่องของความยั่งยืน เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจก็จะทำให้ถูกบังคับออกจากธุรกิจนั้นตลอดไป
ใน Immersive Marketing มีองค์ประกอบ 5 ตัวได้แก่
Storytelling Experience
Multisensory Experience
Interactive Experience
Participative Experience
Frictionless Experience
Immersive Marketing เป็นการสร้างใหม่ เพื่อการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับมนุษย์ที่เกิดขึ้นได้บนโลกเสมือนจริง
โดยแนวคิดของ Metaverse ต้องมี 5 องค์ประกอบ คือ
Virtual Assets สินทรัพย์เสมือนจริงที่มีอยู่จริงทางกายภาพ
Avatars การนำคนเข้าไปสู่โลกเสมือนจริง
User Experience ประสบการณ์ผู้ใช้งาน
Creator Economy เศรษฐกิจของผู้สร้าง
Governance การกำกับดูแลในโลกเสมือนจริง เพื่อให้ Metaverse สามารถดำเนินการได้เหมือนโลกจริง
เทคนิคทางการตลาดที่จะทำให้อยู่รอด ปลอดภัยในยุค Marketing 6.0
นักการตลาดต้องเข้าใจและใช้เครื่องมือเพื่อจำแนกลูกค้าออกตามคุณสมบัติและความสนใจตลอดทั้ง Customer Journey ซึ่งสามารถใช้
Content Marketing
Customer Journey Mapping
Influencer Marketing
Personas
Touchpoint Marketing
นักการตลาดต้องเข้าใจและประยุกต์ใช้ Machine Learning ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับการวิเคราะห์เพื่อพยากรณ์ (Predictive & Prescriptive Analytic) ต่อลูกค้าที่เป็นเป้าหมาย
นักการตลาดต้องเข้าใจการออกแบบประสบการณ์ให้สร้างสรรค์เพื่อสร้างความประทับใจที่ดีนำไปสู่การบอกต่อ และซื้อซ้ำ รวมทั้งขยาย Customer Lifetime Value (CLV)
ผู้ซื้อจะเลือกแบรนด์ที่ดีที่สุดโดยไม่สนใจดูโฆษณา (Advertising) และการชักชวนของพนักงานขาย (Personal Selling) ดังนั้นการทำตลาดที่ประสบความสำเร็จการ
ตั้งราคาที่มีกลยุทธ์ (Price Strategy)
เรื่องราวของแบรนด์ที่แข็งแรง (Brand Story)
มีช่องทางจำหน่ายของตัวเอง (Channels)
6 พื้นฐานที่ควรเน้นให้แน่น
STP
Target Market
Value Proposition
Marketing Research
Marketing Plan
Implement
ย้อนดู Marketing 5.0
เทคโนโลยีต้องช่วยให้มนุษยชาติมีชีวิตที่ดีขึ้น คำจำกัดความของ Marketing 5.0 คือเทคโนโลยีที่เลียนแบบมนุษย์ในการสร้างสรรค์ ทำการสื่อสาร และส่งต่อคุณค่าสู่เส้นทางของลูกค้า(Customer Journey) ให้รู้จักและติดตามแบรนด์ หนึ่งในหัวใจสำคัญที่สุดของการตลาด 5.0 คือสิ่งที่เรียกว่า “Next tech” คือเทคโนโลยีที่มีเป้าหมายในการเลียนแบบนักการตลาดที่เป็นมนุษย์
การตลาด 5.0 ประกอบไปด้วย 5 องค์ประกอบสำคัญคือ การตลาดที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล (Data-driven marketing) การตลาดที่คล่องตัวเน้นผลลัพธ์มากกว่าขั้นตอน (Agile marketing) การใช้เทคโนโลยีมาช่วยในคาดการณ์ความสำเร็จ (Predictive marketing) การตลาดที่คำนึงถึงบริบทแวดล้อมและความต้องการของลูกค้า (Contextual marketing) และองค์ประกอบสุดท้ายคือ การตลาดที่ใช้เทคโนโลยีมาช่วยปรับปรุงผลิตภัณฑ์และความพอใจของลูกค้า (Augmented marketing)
เมื่อเห็นภาพรวมของ 5 องค์ประกอบหลักของการตลาด 5.0 กันแล้ว คราวนี้เราไปเจาะลึกในรายละเอียดเหล่านี้ ว่าแต่ละองค์ประกอบคืออะไร และมีความสำคัญอย่างไรกับการตลาด 5.0
การตลาดที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล
การตลาดที่คล่องตัวเน้นผลลัพธ์มากกว่าขั้นตอน
ใช้เทคโนโลยีมาคาดการณ์ความสำเร็จทางการตลาด
การตลาดที่คำนึงถึงบริบทแวดล้อมและความต้องการของลูกค้า
การใช้เทคโนโลยีช่วยสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า
กว่านักการตลาดจะเดินทางมาถึงยุคของการตลาด 5.0 เราผ่านทฤษฎีและแนวคิดคลาสสิกด้านการตลาดมาอย่างมากมาย แต่ไม่เคยมียุคไหนเลยที่จะมีการก้าวกระโดดของเทคโนโลยีเท่ากับยุคนี้ ดังนั้นนักการตลาดผู้มองการณ์ไกลย่อมเห็นประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัล และสามารถใช้ Big data เพื่อช่วยในการตัดสินใจอย่างเป็นประโยชน์กับองค์กรมากขึ้น ช่วยให้สามารถคาดการณ์ทิศทางของตลาดในอนาคตได้แม่นยำ ยืดหยุ่น อยู่รอดและเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งในโลกแห่งเทคโนโลยีดิจิทัล
หากจะอธิบายสิ่งที่กล่าวมา ให้ง่ายที่สุด เราอาจใช้สมการข้างล่างนี้ย่นย่อความหมายของแนวคิดการตลาดในปัจจุบันออกมาได้ ดังนี้
Human + Data + Technology + Platform + Analyze = Marketing 5.0
องค์ประกอบของแนวคิด Marketing 5.0
Marketing 5.0 มีองค์ประกอบหลัก 5 อย่างที่ต้องทำงานสอดประสานกัน โดยมี Big Data และ Data Platform เป็นฐานรองรับ
Data Driven Marketing
Agile Marketing
Predictive Marketing
Contextual Marketing
Augmented Marketing
ประสบการณ์ 5 ก้าว ตามแนวทาง Marketing 5.0
รู้จัก (Aware) กลุ่มเป้าหมายรับรู้เกี่ยวกับแบรนด์ผ่านประสบการณ์ ป้ายโฆษณา หรือการแนะนำจากผู้มีอิทธิพลทางความคิด
สนใจ (Appeal) เมื่อพบเห็นแล้วโดนใจก็จดจำได้ เกิดความสนใจที่จะเลือกซื้อหาสินค้าหรือเลือกใช้บริการ
ถามไถ่ (Ask) เกิดความสงสัยใคร่รู้เกี่ยวกับสินค้าหรือบริการ ตามหาข้อมูล อ่านรีวิว ดูวิดีโอสาธิตการทดลองใช้ ถามจากคนใกล้ตัวเพิ่มเติม
ตัดสินใจ (Act) เลือกซื้อ เลือกใช้บริการจากการประมวลผลข้อมูลที่สนับสนุนความสนใจ
บอกต่อ (Advocate) จากลูกค้ากลายเป็นซูเปอร์แฟน ผู้พร้อมบอกต่อความดีงามของสินค้าหรือบริการที่ตนเองพึงพอใจ ชวนให้คนอื่นๆ มาทดลองใช้ไปด้วยกัน
อ่านทั้งหมด Marketing 5.0 เทคโนโลยีจะช่วยเพิ่มความเป็นมนุษย์ให้การตลาดดิจิทัลได้อย่างไร? (neoacademy.pro)
ยุคสมัยของการตลาด
ก่อนจะบอกว่า Marketing 5.0 คืออะไร เรามาย้อนทำความเข้าใจแนวทางการตลาดในอดีตกันก่อนว่า
ข้อจำกัดด้านการสื่อสาร ศักยภาพของเทคโนโลยี สภาพเศรษฐกิจและความสนใจของผู้คนสังคม เป็นปัจจัยที่ทำให้แต่ละยุคสมัยนักการตลาดให้ความสำคัญต่อสิ่งต่างๆ ไม่เหมือนกัน โดยมีทิศทางพัฒนาการแนวคิดที่มุ่งเข้าสู่พฤติกรรมมนุษย์มากขึ้นเรื่อยๆ
Marketing 1.0 - Product Centric เน้นการพัฒนาคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ วัดกันว่าของยี่ห้อไหนดีกว่า เยอะกว่า ถูกกว่า ใช้ได้นานกว่า พกพาง่ายกว่า ฯลฯ
Marketing 2.0 - Customer Centric เน้นความต้องการของลูกค้า จัดกลุ่มผู้คนที่มีความต้องการแตกต่างกัน แบ่งออกเป็นกลุ่มย่อยๆ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่ตรงใจที่สุด
Marketing 3.0 - Human Centric เน้นคุณค่าที่ยึดถือ สื่อสารเกี่ยวกับความเชื่อของแบรนด์ แสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบต่อโลก สังคมและสิ่งแวดล้อมรอบตัว
Marketing 4.0 - Traditional to Digital เน้นการผสมผสานระหว่างประสบการณ์แบบเดิมที่จับต้องได้ เข้ากับประสบการณ์ออนไลน์ หรือที่รู้จักกันในชื่อของ omnichannel
Marketing 5.0 - เปรียบเหมือนการนำ Marketing 3.0 ซึ่งเน้นความเข้าใจมนุษย์ กับ Marketing 4.0
ที่เน้นดิจิทัลไลฟ์สไตล์ มารวมกันเป็นการตลาดที่นำเอาเทคโนโลยีมาใช้ทำความเข้าใจมนุษย์ให้ดียิ่งขึ้น เพื่อสร้างประสบการณ์ที่เข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้นนั่นเอง
สำหรับผู้บริหาร นักการตลาด และผู้สนใจในการตลาดดิจิทัล ที่ต้องการฝึกทักษะและเรียนรู้การทำการตลาดอันสอดประสานไปกับเทคโนโลยีจากผู้เชี่ยวชาญตัวจริง มาทำความเข้าใจการตลาดดิจิทัลอย่างลึกซึ้งได้ที่หลักสูตร Mini MBA Digital Marketing Management
แหล่งอ้างอิง
Marketing 5.0 Technology for Humanity, Philip Kotler
The Evolution Of Marketing: A Candid Conversation With The Father Of Modern Marketing (www.forbes.com)
Marketing 5.0 and understanding modern marketing lessons (www.think-beyond.co.uk)
Comments